ปาฏิหาริย์ แห่งการวิ่ง พลิกฟื้นวิถีชีวิต

ส่งผลดีต่อระบบร่างกาย ให้เกิดความสมดุล

 

          ปัญหาของผู้คนส่วนใหญ่ในโลกนี้ คือกินมากไป สูบและดื่มมากไป อ้วนมากเกินไป และออกกำลังกายน้อยเกินไป ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าการเจ็บป่วยนั้นเกิดขึ้นจากวิถีการดำเนินชีวิตของตัวเรานั่นเอง

 

          ธรรมชาติของมนุษย์ ถูกออกแบบมาให้ต้องเคลื่อนไหว อยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการแสวงหาที่อยู่ แสวงหาอาหาร ด้วยการล่าสัตว์หรือทำเกษตรกรรม ซึ่งกิจวัตรประจำวันเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่สร้างให้มนุษย์มีร่างกายที่แข็งแรงและสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างปกติสุข

 

         แต่ในยุคปัจจุบันนี้วิถีการดำรงชีวิตของมนุษย์เราเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก มนุษย์ในยุคคอมพิวเตอร์นี้แสนจะสะดวกสบาย เพราะมีเครื่องมืออำนวยความสะดวกให้ใช้ครบทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางที่แสนสะดวกด้วยเครื่องบิน รถยนต์ หรือมอเตอร์ไซด์จะขึ้นที่สูงก็มีลิฟต์หรือบันไดเลื่อนไว้คอยอำนวยความสะดวกแทบทุกตึก แม้แต่จะดูโทรทัศน์ก็ไม่ต้องเดินไปเปลี่ยนช่องเหมือนเดิม เพราะมีรีโมตที่สามารถกดแค่ปลายนิ้ว ก็เปลี่ยนช่องได้ตลอดเวลา

 

          แต่ใครจะฉุกคิดว่า วิถีการดำรงชีวิตแบบใหม่ที่แสนสบายนี้ กลับทำให้เราแทบไม่ได้ขยับตัวเลยในแต่ละวัน ซึ่งหัวใจและกล้ามเนื้อที่ถูกใช้งานน้อยเหล่านี้ จึงเริ่มอ่อนแรงลงเพราะไม่มีโอกาสที่จะใช้งานหรือออกกำลังอย่างที่ควรจะเป็น

 

          ประกอบกับการบริโภคอาหารที่ไม่ถูกต้อง ทั้งอาหารที่มีไขมัน น้ำตาล และเกลือที่สูงล้นจนเกินที่ร่างกายจะรับได้ ตลอดจนการดื่มสุรา เบียร์ ไวน์ฯลฯ และการสูบบุหรี่ ซึ่งเป็นสารพิษที่เข้าไปทำลายอวัยวะต่างๆ ในร่างกายจำนวนมาก ร่างกายที่ถูกออกแบบให้อยู่ได้เป็นร้อยปีจึงกลับร่วงโรยลงด้วยการเป็นโรคเรื้อรังที่ไม่มีทางรักษา เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง และอีกหลายๆ โรคที่พร้อมจะคร่าชีวิตคุณให้จากโลกนี้ไปอย่างทรมาน

 

         ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจเลย ที่บุคคลหลายคนที่นำมาเป็นตัวอย่างในหนังสือ “ปาฏิหาริย์แห่งการวิ่ง” สามารถพลิกฟื้นวิถีชีวิตที่ไม่ถูกต้องเหล่านั้น ด้วยแรงใจที่แน่วแน่ จนสามารถค้นหาปาฏิหาริย์และหายจากโรคที่รุมเร้าเขาเหล่านั้นได้ ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเองและหันมาออกกำลังกายด้วยการวิ่งอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคให้ถูกต้อง และเลิกจากสิ่งเสพติดไม่ว่าจะเป็น เหล้า บุหรี่ อย่างเด็ดขาด

 

         การออกกำลังกายมีหลายประเภทแต่ประเภทที่มีผลดีต่อสุขภาพเป็นอย่างมากคือการออกกำลังกายแบบ แอโรบิก ซึ่งไม่ได้หมายความเพียงการเต้นแอโรบิกแต่เพียงอย่างเดียวแต่เป็นการออกกำลังกายที่ทำให้ร่างกายมีการใช้ออกซิเจนอย่างต่อเนื่อง

 

          ซึ่งจะทำให้ปอดหายใจเอาอากาศเข้าไปมาก หัวใจเต้นเร็วขึ้นและสูบฉีดเลือดแรงขึ้น เลือดในร่างกายมีการไหลเวียนมากขึ้นและออกซิเจนถูกกระจายไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกายเพิ่มขึ้น ผลของการออกกำลังกายแบบ แอโรบิกจะทำปอดมีประสิทธิภาพ หัวใจแข็งแรงและหลอดเลือดดีขึ้น

 

          ตัวอย่างของการออกกำลังกายแบบแอโรบิก คือ การวิ่ง การเดินเร็ว การขี่จักรยาน การว่ายน้ำ การเต้นแอโรบิก เป็นต้น ซึ่งการออกกำลังกายประเภทนี้ จะมีความต่อเนื่อง ไม่กระชากเช่นเดียวกับกีฬาอีกหลายประเภท เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอล แบดมินตัน เป็นต้น เคยมีคนเปรียบเทียบไว้ว่าการออกกำลังกายแบบแอโรบิก เหมือนกับรถที่ค่อยๆ เพิ่มความเร็วขึ้นจนคงที่แล้วจึงค่อยๆ ลดลง จนหยุดในที่สุดต่างจากการออกกำลังบางประเภท ที่จะเหมือนรถที่ขับ แบบกระชากเดี๋ยวช้าเดี๋ยวเร็ว ซึ่งทำให้เครื่องยนต์มีการสึกหรอและพังได้อย่างรวดเร็ว ดังที่เราจะได้ยินข่าวเสมอว่า มีนักฟุตบอลระดับโลก ได้เสียชีวิตในระหว่างการแข่งขันบ่อยๆ

 

          นอกจากผลดีต่อปอด หัวใจ เส้นเลือดแล้ว ยังพบว่าการออกกำลังกายแบบแอโรบิกยังช่วยให้ร่างกาย สดชื่น การย่อยอาหารดีขึ้น ขับถ่ายสบาย นอนหลับง่าย ลดความเครียด ไม่อยากเหล้า เบียร์ หรือบุหรี่ ลดความอ้วน จิตใจสดชื่น มีความคิดสร้างสรรค์ สมดังคำที่ว่า “ออกกำลังกายเป็นยาวิเศษ”

 

ข้อมูลจาก : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)