:: ครูนวพร ::

  • Today’s Photo

  • Calendar:

    ธันวาคม 2008
    อา. จ. อ. พ. พฤ. ศ. ส.
     123456
    78910111213
    14151617181920
    21222324252627
    28293031  
  • Archieves:

  • จำนวนผู้เข้าชม

    • 524,264 hits

การป้องกันหลอดเลือดหัวใจตีบ

Posted by Kru nawaporn บน ธันวาคม 29, 2008

ท่านผู้อ่านลองสำรวจดูว่าตัวท่านรวมทั้งคนที่รู้จัก มีใครบ้างที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดแข็ง หากพบว่ามีปัจจัยเสี่ยงแนะนำว่าให้ปฏิบัติตามเป้าหมายที่แนะนำ การป้องกันโรคย่อมดีกว่าการรักษาเนื่องจากประหยัดค่าใช้จ่าย ผู้ป่วยก็ไม่เกิดความพิการ คุณภาพชีวิตทั้งตัวผู้ป่วยและญาติดีขึ้น  เนื่องจากโรคหลอดเลือดหัวใจตีบและโรคอัมพาตมีปัจจัยเสี่ยงใกล้เคียงกันจึงขอกล่าวรวมกัน เนื่องจากโรคหลอดเลือดแดงแข็ง Atherosclerosis เป็นสาเหตุสำคัญของโรคหัวใจและโรคอัมพาต หลอดเลือดแดงแข็งเริ่มเกิดตั้งแต่วัยรุ่นและเกิดอาการหรือเกิดโรคตอนวัยกลางคน ดังนั้นการให้ความรู้และเปลี่ยนพฤติกรรมควรเริ่มตั้งแต่วัยรุ่น การป้องกันโรคแบ่งเป็น การป้องกันปฐมภูมิ คือการป้องกันตั้งแต่ยังไม่เกิดโรค การป้องกันทุติยภูมิ คือการป้องกันมิให้เกิดโรคซ้ำ การป้องกันปฐมภูมิจะเน้นเรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมากกว่าการใช้ยา แต่หากคุณมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบก็จำเป็นต้องใช้ยา สำหรับผู้ที่เกิดโรคแล้วการใช้ยาเพื่อทำให้หลอดเลือดแข็งแรงขึ้น และลดการเกิดหลอดเลือดแข็ง

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

1. สูบบุหรี่ Smoking

เป้าหมาย (Goal)  หยุดสูบบุหรี่

ข้อแนะนำ (Recommendations) 

  1. การตรวจร่างกายประจำปีให้ถามเรื่องการสูบบุหรี่ และแนะนำให้เลิกบุหรี่
  2. สนับให้ผู้ป่วยและญาติหยุดสูบบุหรี่
  3. ถ้าหยุดเองไม่ได้แนะนำให้ปรึกษาศูนย์อดบุหรี่
  4. ความดันโลหิตสูงBlood pressure control 
  5. เป้าหมาย (Goal)   ความดันโลหิตน้อยกว่า 130/85 มม.ปรอท
  6. ข้อแนะนำ (Recommendations) 
  7. ให้วัดความดันทุก 2 ปีสำหรับผู้ใหญ่
  8. ให้เปลี่ยนพฤติกรรมการดำรงชิวิต เพื่อป้องกันความดันโลหิต
  9. ถ้าความดันมากกว่า 140/90 มม.ปรอทเป็นเวลา 6 เดือน หรือความดันโลหิตมากกว่า160/90 มม.ปรอท ก็เริ่มให้ยาลดความดันโลหิต

2. ไขมันในเลือด Cholesterol management

เป้าหมาย (Goal)

  1. ปัจัยเสี่ยงน้อยกว่า 1 ข้อ, LDL<160 mg%
  2. ปัจจัยเสี่ยงน้อยกว่า 2 ข้อ, LDL<130 mg%
  3. HDL>35 MG%
  4. Triglyceride<200 mg%

ข้อแนะนำ (Recommendations) 

  1. การบริโภคไขมันอิ่มตัว
  2. เจาะเลือดหาระดับ cholesterol และHDLในผู้ใหญ่อายุมากกว่า 20 ปีและประเมินปัจจั ยเสี่ยงทุก 5 ปี
  3. ให้รับประทานอาหารที่มีคุณภาพ
  4. เจาะเลือดหาระดับ LDL เมื่อ total cholesterol>240 mg% หรือ total cholesterol>200 mg% และมีปัจจัยเสี่ยงมากกว่า 2 ข้อ หรือ HDL<35 mg%
  5. ถ้าHDL<35 mg% ใหออกกำลังกาย หยุดสูบบุหรี่
  6. ให้ยารักษาเมื่อมีข้อบ่งชี้

3. การออกกำลังกาย Physical activity

เป้าหมาย (Goal)  ออกกำลังกายสัปดาห์ละ3-6วัน วันละ30 นาที โดยได้อัตราเต้นของหัวใจ 60-80%ของอัตราเต้นเป้าหมาย

ข้อแนะนำ (Recommendations)

  1. แนะนำให้ออกกำลังกายเป็นประจำ
  2. ออกกำลังกายเป็นประจำสัปดาห์ละ3-6วัน วันละ30 -60นาที โดยได้อัตราเต้นของหัวใจ 60-80%ของอัตราเต้นเป้าหมาย
  3. แนะนำให้เปลี่ยนพฤติกรรมการดำดงชีวิต เช่น เดินให้มาก ทำงานบ้าน ใช้จักรยานแทนรถ
  4. ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ก่อนออกกำลังกาย

4. การคุมน้ำหนัก Weight management

เป้าหมาย (Goal)  ดัชนีมวลกายให้อยู่ระหว่าง 19-23 กก/ตารางเมตร สำหรับคนที่อ้วนลงพุงจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ เบาหวานและไขมันในเลือด

ข้อแนะนำ (Recommendations)

  1. วัดส่วนสูงและชั่งน้ำหนักรวมทั้งวัดรอบเอวและรอบสะโพกทุกปี
  2. ดัชนีมวลกายมากกว่า 27 กก/ตารางเมตร หรือรอบเอวมากกว่า 90 ซม.สำหรับผู้ชาย 80 ซม.สำหรับผู้หญิง ต้องให้การรักษา
  3. การได้รับยาคุมกำเนิด
  4. อาจจะให้ในหญิงวัยทองที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจหลายประการ เช่น LDLที่สูง
  5. การตรวจร่างกายประจำปี
  6. การตรวจร่างกายประจำปีมีความสำคัญโดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคสูง เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงบางอย่างจะไม่มีอาการ เช่น ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง การตรวจร่างกายประจำปีจะทำให้เราทราบปัจจัยเสี่ยงของเรา
  7. การรับประทานอาหารที่มีคุณภาพ
  8. การรับประทานอาหารที่มีคุณภาพต้องประกอบไปด้วยปริมาณพลังงานที่ไม่มากเกินไป มีแร่ฐาตครบถ้วน ครบห้าหมู่ หลีกเลี่ยงอาหารมัน เค็ม หรือหวาน
  9. การจัดการเรื่องความเครียด
  10. ความเครียดมักจะเป็นปัจจัยหนึ่งของการเกิดโรคหัวใจ การมองโลกในแง่ดีหรือเชิงบวกจะช่วยลดความเครียดได้

5. การดื่มสุรา

การดื่มสุราพอเหมาะจะช่วยลดการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ หากดื่มมากเกินไปจะทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น

การป้องกันหลอดเลือดหัวใจตีบโดยการใช้ยา

หากคุณตรวจร่างกายแล้วพบว่าเป็นโรค การใช้ยาควบคุมโรคจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจยาที่นิยมใช้คือ

  1. ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด
  2. ตัวแรกที่นิยมให้คือ Aspirin
  3. ตัวที่สองคือ plavix เป็นยาที่นิยมใช้ในคนไข้ที่ทำบอลลูนขยายหลอดเลือดหัวใจและใส่ขดรวดในหลอดเลือดหัวใจ
  4. ยาปิดกันเบต้า Betablock ยานี้จะลดความดันโลหิต ลดการเต้นของหัวใจ และลดการใช้ออกซิเจนของกล้ามเนื้อหัวใจ
  5. Angiotensin-converting enzyme inhibitor ยานี้จะใช้ได้ดีในรายที่หัวใจทำงานไม่ดี ผู้ป่วยสูงอายุ ผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ป่วยที่มีโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลาย
  6. ยาลดไขมัน การใช้ยาลดไขมันจะช่วยการตีบของหลอดเลือดหัวใจ


ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดแดงหัวใจตีบ

  1. อายุ ชายมากกว่า 45 ปี,หญิงอายุมากกว่า 55 ปี หรือวัยหมดประจำเดือน
  2. ความดันโลหิตสูง มากกว่า 140/90 มม.ปรอท
  3. โรคเบาหวาน
  4. สูบบุหรี่
  5. HDL cholesterol < 35 mg%
  6. มีญาติสายตรงเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบก่อนวัย(ชายน้อยกว่า55ปี หญิงน้อยกว่า 65 ปี)
  7. ถ้า HDL > 60 mg% ให้ลบปัจจัยเสี่ยงออกข้อหนึ่ง

ข้อมูลจาก: http://www.siamhealth.net

มีการตอบกลับหนึ่งครั้ง to “การป้องกันหลอดเลือดหัวใจตีบ”

  1. Cholesterol…

    CHOLESTEROL AND HEALTHY HEART American Heart Association meeting report
    Cholesterol คืออะไร ?
    Cholesterol เป็นกลุ่มไขมันที่เป็นสาร ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และไม่ละลายน้ำ
    Cholesterol เป็นสิ่งจำเป็นต่อชีวิต เนื่องจากร่างกายต้องใช้เป็นส่วนประกอบของโครงสร้…

ใส่ความเห็น