การป้องกันหลอดเลือดหัวใจตีบ
Posted by Kru nawaporn บน ธันวาคม 29, 2008
ท่านผู้อ่านลองสำรวจดูว่าตัวท่านรวมทั้งคนที่รู้จัก มีใครบ้างที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดแข็ง หากพบว่ามีปัจจัยเสี่ยงแนะนำว่าให้ปฏิบัติตามเป้าหมายที่แนะนำ การป้องกันโรคย่อมดีกว่าการรักษาเนื่องจากประหยัดค่าใช้จ่าย ผู้ป่วยก็ไม่เกิดความพิการ คุณภาพชีวิตทั้งตัวผู้ป่วยและญาติดีขึ้น เนื่องจากโรคหลอดเลือดหัวใจตีบและโรคอัมพาตมีปัจจัยเสี่ยงใกล้เคียงกันจึงขอกล่าวรวมกัน เนื่องจากโรคหลอดเลือดแดงแข็ง Atherosclerosis เป็นสาเหตุสำคัญของโรคหัวใจและโรคอัมพาต หลอดเลือดแดงแข็งเริ่มเกิดตั้งแต่วัยรุ่นและเกิดอาการหรือเกิดโรคตอนวัยกลางคน ดังนั้นการให้ความรู้และเปลี่ยนพฤติกรรมควรเริ่มตั้งแต่วัยรุ่น การป้องกันโรคแบ่งเป็น การป้องกันปฐมภูมิ คือการป้องกันตั้งแต่ยังไม่เกิดโรค การป้องกันทุติยภูมิ คือการป้องกันมิให้เกิดโรคซ้ำ การป้องกันปฐมภูมิจะเน้นเรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมากกว่าการใช้ยา แต่หากคุณมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบก็จำเป็นต้องใช้ยา สำหรับผู้ที่เกิดโรคแล้วการใช้ยาเพื่อทำให้หลอดเลือดแข็งแรงขึ้น และลดการเกิดหลอดเลือดแข็ง
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
1. สูบบุหรี่ Smoking
เป้าหมาย (Goal) หยุดสูบบุหรี่
ข้อแนะนำ (Recommendations)
- การตรวจร่างกายประจำปีให้ถามเรื่องการสูบบุหรี่ และแนะนำให้เลิกบุหรี่
- สนับให้ผู้ป่วยและญาติหยุดสูบบุหรี่
- ถ้าหยุดเองไม่ได้แนะนำให้ปรึกษาศูนย์อดบุหรี่
- ความดันโลหิตสูงBlood pressure control
- เป้าหมาย (Goal) ความดันโลหิตน้อยกว่า 130/85 มม.ปรอท
- ข้อแนะนำ (Recommendations)
- ให้วัดความดันทุก 2 ปีสำหรับผู้ใหญ่
- ให้เปลี่ยนพฤติกรรมการดำรงชิวิต เพื่อป้องกันความดันโลหิต
- ถ้าความดันมากกว่า 140/90 มม.ปรอทเป็นเวลา 6 เดือน หรือความดันโลหิตมากกว่า160/90 มม.ปรอท ก็เริ่มให้ยาลดความดันโลหิต
2. ไขมันในเลือด Cholesterol management
เป้าหมาย (Goal)
- ปัจัยเสี่ยงน้อยกว่า 1 ข้อ, LDL<160 mg%
- ปัจจัยเสี่ยงน้อยกว่า 2 ข้อ, LDL<130 mg%
- HDL>35 MG%
- Triglyceride<200 mg%
ข้อแนะนำ (Recommendations)
- การบริโภคไขมันอิ่มตัว
- เจาะเลือดหาระดับ cholesterol และHDLในผู้ใหญ่อายุมากกว่า 20 ปีและประเมินปัจจั ยเสี่ยงทุก 5 ปี
- ให้รับประทานอาหารที่มีคุณภาพ
- เจาะเลือดหาระดับ LDL เมื่อ total cholesterol>240 mg% หรือ total cholesterol>200 mg% และมีปัจจัยเสี่ยงมากกว่า 2 ข้อ หรือ HDL<35 mg%
- ถ้าHDL<35 mg% ใหออกกำลังกาย หยุดสูบบุหรี่
- ให้ยารักษาเมื่อมีข้อบ่งชี้
3. การออกกำลังกาย Physical activity
เป้าหมาย (Goal) ออกกำลังกายสัปดาห์ละ3-6วัน วันละ30 นาที โดยได้อัตราเต้นของหัวใจ 60-80%ของอัตราเต้นเป้าหมาย
ข้อแนะนำ (Recommendations)
- แนะนำให้ออกกำลังกายเป็นประจำ
- ออกกำลังกายเป็นประจำสัปดาห์ละ3-6วัน วันละ30 -60นาที โดยได้อัตราเต้นของหัวใจ 60-80%ของอัตราเต้นเป้าหมาย
- แนะนำให้เปลี่ยนพฤติกรรมการดำดงชีวิต เช่น เดินให้มาก ทำงานบ้าน ใช้จักรยานแทนรถ
- ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ก่อนออกกำลังกาย
4. การคุมน้ำหนัก Weight management
เป้าหมาย (Goal) ดัชนีมวลกายให้อยู่ระหว่าง 19-23 กก/ตารางเมตร สำหรับคนที่อ้วนลงพุงจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ เบาหวานและไขมันในเลือด
ข้อแนะนำ (Recommendations)
- วัดส่วนสูงและชั่งน้ำหนักรวมทั้งวัดรอบเอวและรอบสะโพกทุกปี
- ดัชนีมวลกายมากกว่า 27 กก/ตารางเมตร หรือรอบเอวมากกว่า 90 ซม.สำหรับผู้ชาย 80 ซม.สำหรับผู้หญิง ต้องให้การรักษา
- การได้รับยาคุมกำเนิด
- อาจจะให้ในหญิงวัยทองที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจหลายประการ เช่น LDLที่สูง
- การตรวจร่างกายประจำปี
- การตรวจร่างกายประจำปีมีความสำคัญโดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคสูง เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงบางอย่างจะไม่มีอาการ เช่น ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง การตรวจร่างกายประจำปีจะทำให้เราทราบปัจจัยเสี่ยงของเรา
- การรับประทานอาหารที่มีคุณภาพ
- การรับประทานอาหารที่มีคุณภาพต้องประกอบไปด้วยปริมาณพลังงานที่ไม่มากเกินไป มีแร่ฐาตครบถ้วน ครบห้าหมู่ หลีกเลี่ยงอาหารมัน เค็ม หรือหวาน
- การจัดการเรื่องความเครียด
- ความเครียดมักจะเป็นปัจจัยหนึ่งของการเกิดโรคหัวใจ การมองโลกในแง่ดีหรือเชิงบวกจะช่วยลดความเครียดได้
5. การดื่มสุรา
การดื่มสุราพอเหมาะจะช่วยลดการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ หากดื่มมากเกินไปจะทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น
การป้องกันหลอดเลือดหัวใจตีบโดยการใช้ยา
หากคุณตรวจร่างกายแล้วพบว่าเป็นโรค การใช้ยาควบคุมโรคจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจยาที่นิยมใช้คือ
- ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด
- ตัวแรกที่นิยมให้คือ Aspirin
- ตัวที่สองคือ plavix เป็นยาที่นิยมใช้ในคนไข้ที่ทำบอลลูนขยายหลอดเลือดหัวใจและใส่ขดรวดในหลอดเลือดหัวใจ
- ยาปิดกันเบต้า Betablock ยานี้จะลดความดันโลหิต ลดการเต้นของหัวใจ และลดการใช้ออกซิเจนของกล้ามเนื้อหัวใจ
- Angiotensin-converting enzyme inhibitor ยานี้จะใช้ได้ดีในรายที่หัวใจทำงานไม่ดี ผู้ป่วยสูงอายุ ผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ป่วยที่มีโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลาย
- ยาลดไขมัน การใช้ยาลดไขมันจะช่วยการตีบของหลอดเลือดหัวใจ
ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดแดงหัวใจตีบ
- อายุ ชายมากกว่า 45 ปี,หญิงอายุมากกว่า 55 ปี หรือวัยหมดประจำเดือน
- ความดันโลหิตสูง มากกว่า 140/90 มม.ปรอท
- โรคเบาหวาน
- สูบบุหรี่
- HDL cholesterol < 35 mg%
- มีญาติสายตรงเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบก่อนวัย(ชายน้อยกว่า55ปี หญิงน้อยกว่า 65 ปี)
- ถ้า HDL > 60 mg% ให้ลบปัจจัยเสี่ยงออกข้อหนึ่ง
ข้อมูลจาก: http://www.siamhealth.net
The Biggest Cause Of Death Thai said
Cholesterol…
CHOLESTEROL AND HEALTHY HEART American Heart Association meeting report
Cholesterol คืออะไร ?
Cholesterol เป็นกลุ่มไขมันที่เป็นสาร ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และไม่ละลายน้ำ
Cholesterol เป็นสิ่งจำเป็นต่อชีวิต เนื่องจากร่างกายต้องใช้เป็นส่วนประกอบของโครงสร้…